รีวิวหนัง Things Heard & Seen (2021) แว่วเสียงวิญญาณหลอน
ประเภทของภาพยนตร์: สยองขวัญ
วันที่เข้าฉาย: 29 เมษายน 2564
ผู้กำกับ: Shari Springer Berman,Robert Pulcini
นักแสดงนำ: Stefanie Azpiazu,Anthony Bregman,Julie Cohen,Peter Cro
ความยาว : 121 นาที
เรื่องย่อ:
ดูหนัง 2024 ในปี 1980 แคเธอรีน แคลร์ผู้บูรณะงานศิลปะอาศัยอยู่ในแมนฮัตตันกับจอร์จ สามีของเธอ และฟรานนี่ ลูกสาวของเธอ เมื่อจอร์จได้งานสอนประวัติศาสตร์ศิลปะในวิทยาลัย ครอบครัวของเธอจึงย้ายเข้าไปอยู่ในฟาร์มเฮาส์หลังใหญ่ทาง ตอนเหนือ ของ นิวยอร์ก
แคทเธอรีนซึ่งป่วยเป็นโรคบูลิเมียรู้สึกโดดเดี่ยวในบ้าน เธอพบพระคัมภีร์เก่าที่มีแผนภูมิลำดับเครือญาติของเจ้าของคนก่อน ซึ่งก็คือตระกูลสมิธ ชื่อบางชื่อถูกขีดฆ่าและทำเครื่องหมายไว้ว่า "สาปแช่ง" เธอสัมผัสได้ถึงวิญญาณและเห็นแสงประหลาดที่นำเธอไปสู่แหวนโบราณซึ่งเธอเริ่มสวมใส่ ฟรานนี่เห็นวิญญาณหญิงในห้องของเธอและยืนกรานที่จะนอนกับพ่อแม่ของเธอ แคทเธอรีนจ้างเอ็ดดี้และโคล ลัคส์ พี่น้องของเขาเป็นช่างซ่อมและพี่เลี้ยงเด็ก ในขณะที่จอร์จเริ่มมีสัมพันธ์กับวิลลิส ลูกพี่ลูกน้องของเอ็ดดี้
แคทเธอรีนเป็นเพื่อนกับจัสติน โซโคลอฟ เพื่อนร่วมงานของจอร์จ จอร์จเชิญฟลอยด์ เดอเบียร์ส หัวหน้าแผนกประวัติศาสตร์ศิลป์ มาที่บ้านของเขา ฟลอยด์สัมผัสได้ถึงวิญญาณ แต่รับรองกับแคทเธอรีนว่าวิญญาณนั้นใจดีและเสนอที่จะจัดพิธีเรียกวิญญาณ
จอร์จและแคทเธอรีนจัดงานปาร์ตี้ ซึ่งแคทเธอรีนได้รู้ว่าเจ้าของคนก่อนซึ่งเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายคือพ่อแม่ของเอ็ดดี้และโคล และแหวนของเธอเป็นของเอลล่า แม่ของพวกเขา เธอเผชิญหน้ากับจอร์จเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความรุนแรงของบ้าน ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกัน วิทยุก็เริ่มเล่น และหยุดลงเมื่อจอร์จทุบมัน แคทเธอรีนขอให้จอร์จพาฟรานนี่ไปที่บ้านพ่อแม่ของเขา
ขณะที่จอร์จไม่อยู่ แคทเธอรีนและฟลอยด์ก็จัดพิธีเรียกวิญญาณของเอลล่า และวิญญาณของเอลล่าก็ถูกเรียกออกมา ฟลอยด์บอกแคทเธอรีนว่ามีวิญญาณอีกดวงอยู่ในบ้าน และเธอควรระวังตัว แคทเธอรีนค้นพบว่าจอร์จมีสัมพันธ์กับวิลลิส ในระหว่างทัศนศึกษา จัสตินได้ยินการสนทนาของจอร์จกับที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของเขา
ซึ่งถามว่าเขาถูกจ้างมาโดยไม่มีจดหมายรับรองได้อย่างไร ฟลอยด์เผชิญหน้ากับจอร์จ ซึ่งยอมรับว่าปลอมแปลงจดหมายรับรอง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำของครอบครัว แคทเธอรีนได้รู้ว่าภาพวาดที่จอร์จอ้างว่าเป็นผลงานของเขา แท้จริงแล้วเป็นผลงานของลูกพี่ลูกน้องของเขาที่จมน้ำเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเรือ ความไว้วางใจของเธอพังทลาย แคทเธอรีนจึงเริ่มมีความสัมพันธ์กับเอ็ดดี้
ระหว่างนั่งเรือ จอร์จพยายามเกลี้ยกล่อมฟลอยด์ไม่ให้รายงานเขา ต่อมา จอร์จที่เปียกโชกกลับมาที่มหาวิทยาลัย (โดยไม่เห็นฟลอยด์อยู่ไหนเลย) ซึ่งจัสตินเผชิญหน้ากับเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับวิลลิส จอร์จติดตามรถของเธอและขับรถพาเธอออกนอกถนน ทำให้เธอโคม่าแคทเธอรีนรู้เรื่องการตายของฟลอยด์และอุบัติเหตุของจัสติน ในห้องเรียนของจอร์จ ภาพวาดลึกลับเกี่ยวกับความตายและไม้กางเขนคริสเตียนจากหนังสือที่ฟลอยด์ให้เขาฉายขึ้นบนจอทันที จอร์จไม่สามารถทำให้มันหายไปได้ ทำให้เขาโกรธมากและวิ่งหนีออกจากชั้นเรียน
เมื่อกลับถึงบ้าน แคเธอรีนเตรียมตัวออกเดินทางกับฟลอยด์ จอร์จวางยาเธอและฆ่าเธอด้วยขวาน ในตอนเช้า โคลมาดูแลเด็กโดยได้รับคำสั่งจากจอร์จไม่ให้รบกวนแคเธอรีนเพราะเธอป่วย จอร์จกลับบ้านจากมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งและสำนักงานของฟลอยด์ และแสร้งทำเป็นค้นพบศพของแคเธอรีน ตำรวจสงสัยว่าฟลอยด์เป็นผู้รับผิดชอบแต่ไม่มีหลักฐาน จึงปล่อยตัวเขาไป เขาพาฟลอยด์ไปที่บ้านพ่อแม่ของเขาในคอนเนตทิคัต
วิญญาณของแคทเธอรีนมารวมพลังกับเอลล่า พวกเขาปลุกจัสตินและแสดงให้เธอเห็นว่าจอร์จทำอะไร จัสตินพูดคุยกับตำรวจ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม จอร์จจึงพยายามหลบหนีด้วยเรือของลูกพี่ลูกน้องของเขา พายุพัดเข้ามาและเรือของจอร์จก็หายไปในกองไฟ เป็นภาพที่คล้ายกับภาพวาดที่เห็นก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ไม้กางเขนในภาพนี้กลับหัวกลับหาง ซึ่งบ่งบอกว่าจอร์จถูกสาปแช่ง
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
Things Heard & Seen: แว่วเสียงวิญญาณหลอน เป็นภาพยนตร์จากทาง netflix ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดัง All Things Cease to Appear ของเอลิซาเบธ บรันเดจ ซึ่งตัวผมเองไม่เคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้ครับจึงไม่รู้ว่ามีความแตกต่างกันกับฉบับอย่างไร ในส่วนของภาพยนตร์ วิธีการดำเนินเรื่อง การนำเข้าไปสู่ความขัดแย้ง สถานการณ์คลี่คลายปม บอกตามตรงว่าผมผิดหวังกับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ซึ่งตอนเห็นปล่อยตัวอย่างออกมาก็เห็นว่าน่าจะเป็นหนังผีแนวระทึกขวัญสยองขวัญแบบเต็มขั้น แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เลย มันหลอกคนดูอย่างสิ้นเชิง ตรรกะของเรื่อ งความสมเหตุสมผลต่าง ๆ มันก็แทบไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะนำไปสู่การเฉลยในท้ายเรื่องแบบนั้น การเล่าเรื่องก็แสนจะน่าเบื่อ 2umv.com
กว่าจะไปรู้ความลับของบ้านก็ปาเข้าไปครึ่งเรื่องแล้วอารมณ์ของเรื่องก็กระโดดไปกระโดดมา ระหว่างหนังแนวครอบครัวแตกร้าว หนังผีสยองขวัญ แล้วก็หนังแบบสืบสวนสอบสวน ซึ่งเรียกได้ว่ามันเป็นส่วนผสมที่ผู้กำกับและคนเขียนบทปรุงรสแบบไม่เข้ากันเลย และที่เลวร้ายมากที่สุดก็คือ การจบของเรื่องที่ทำร้ายจิตใจคนดู แบบจบไปอย่างดื้อไม่มีการสรุปอะไรทั้งสิ้น
หนังได้สร้างปมไว้หลายประเด็นมากเช่น ปมความเจ้าชู้ของสามีแคทเธอรีน ปมของชายสองพี่น้องที่มาทำงานบ้านให้แคทเธอรีน ปมเรื่องราวของบ้านไร่อาถรรพ์ที่มีอายุ 100 กว่าปี ซึ่งมีความตายเกิดขึ้นในบ้านมากมาย แล้วก็ปมของแคทเธอรีนที่ไม่กินอาหาร กากจะกินเธอต้องไปล้วงคอเอาออกในห้องน้ำเสมอ บอกตามตรงว่าระหว่างดู พอมองเห็นปมเหล่านี้ มันก็ทำให้เราสามารถเกาะติดไปกับหนังได้ ซึ่งอยากจะรู้เหลือเกินว่าเขาจะไปยัง จะเฉลยหรือแก้ปมเหล่านี้ยังไง
บอกตามตรงว่าหลังดูจบแล้ว หนังกลับไม่ได้คลี่คลายปมอะไรเหล่านี้เลย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แม้แต่ประเด็นการไม่กินอาหารของแคทเธอรีน ที่เราคิดล่วงหน้าว่าหนังจะหักมุม การที่เธอเห็นผีอาจจะเกิดจากภาพหลอนจากการที่เธออดอาหารนั้น เขาก็ไม่ได้เอามาเล่นเลย มันทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีเซอร์ไพรส์ ไม่หักมุมอะไรเลย
แม้แต่เรื่องราวอาถรรพ์ของบ้าน เขาก็ไม่ได้เฉลยว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ราวกับว่าความลึกลับของบ้านโบราณหลังนี้ก็ปล่อยให้มันลึกลับไป คอนดูไม่ต้องรู้อะไรหรอก ส่วนตัวผมแล้ว ขอบอกได้เลยว่านี่คือหนังผีที่น่าเบื่อที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
โครงเรื่องหลักทั้งหมดอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น เป็นหนังแนวชีวิตครอบครัวที่ไม่สมหวัง ผสมกับการเข้าไปอยู่ในบ้านผีสิง แล้วมีบางสิ่งบางอย่างเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความแตกร้าวมากขึ้น จนนำไปสู่บางสิ่งบางอย่างที่เลวร้ายในตอนจบ แต่หนังก็เล่าออกมาได้แบบทื่อ ไม่ได้คมคายอะไรเลย
ซึ่งหากเรามองประเด็นนี้แล้วนำมาเทียบกับหนังแนวนี้ของบ้านเราอย่างเช่น ลัดดาแลนด์ ผมว่าลัดดาแลนทำได้ดีกว่ามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ การเล่าเรื่อง การใช้สีในเชิงสัญลักษณ์ จนไปถึงจุดจบของเรื่องที่กลายเป็นโศกนาฏกรรม ลัดดาแลนด์กินขาดมาก ๆ
ส่วนในแง่ของความเป็นหนังผีสยองขวัญ ก็จืดชืดมาก ๆ ไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกขนลุกและน่ากลัวเลย แม้ว่าในช่วงต้นเขาจะทำให้เราเห็นว่าลูกสาวของแคทรียา เจอความผิดปกติและผีในห้องนอนของเธอ แต่มันก็ไม่ได้ขยี้อะไรต่อ ผีก็ออกแบบมาได้แบบธรรมดามาก ในแง่ของความเป็นหนังผีสยองขวัญไม่ได้หลอกหลอนทำให้น่ากลัวอะไรเลย หากจะพอมีอยู่บ้าง ก็ต้องยกย่องให้กับฝีมือทางการแสดง แมนด้า ไซย์ฟริด ดาราสาวสวยหน้าตาโต เธอรับบทที่โตขึ้น แสดงถึงอารมณ์มาก แม้ว่าตัวละครที่เธอเล่นนั้นจะมีการตัดสินใจไม่ค่อยมีตรรกะนักก็ตาม
ส่วนเจมส์ นอร์ตัน ที่รับบทเป็นสามีของแคทเธอรีน เขาก็เล่นได้ดี บทในหนังที่เลวเข้าก็แสดงได้เลวจนหน้าหมั่นใส่ ถือว่าดีทั้งคู่ นักแสดงประกอบคนอื่นก็เล่นได้ ในส่วนตัวผมแล้วรู้สึกว่าไม่ติดขัดอะไร พอมาถึงตอนจบของเรื่อง ที่จะเป็นการขมวดปมทั้งหมดของหนัง ที่วางเอาไว้อย่างมากมาย หนังเขาก็จบแบบว่าทำร้ายจิตใจคนดูเป็นอย่างมาก จบไปแบบเฉย ๆ จะไปแบบดื้อ ๆ ดูเหมือนว่าจะหนังโยงกับภาพจิตรกรรม แต่มันก็ไม่ได้แก้ปมอะไรเลย การตัดสินใจของตัวละครสำคัญในช่วงท้ายเรื่องนี้ ก็ประหลาดดีแท้
<a href="#">กลับด้านบน</a>
กลับด้านบน